วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่6


บันทึกอนุทิน
วันพุธ ที่ 18  กุมภาพันธ์ 2558
เวลาเรียน 09.00-12.20 น.
เวลาเข้าเรียน 09.00 เวลาเลิกเรียน 12.20 น.




กิจกรรมที่อาจารย์ให้ทำก่อนเรียน



ให้ตอบตามความรู้สึกของเราจริงๆ พออาจารย์เฉลยก็เรียกเสียงหัวเราะภายในห้องสนุกสนานมากค่ะ


วันนี้เรียนเรื่อง
การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
1.ทักษะทางสังคม 
กิจกรรมการเล่น เป็นสิ่งสำคัญต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคม
ยุทธศาสตร์การสอน  เด็กพิเศษหลายคนไม่รู้วิธีการเล่น ไม่รู้ว่าเล่นอย่างไรครูต้องสังเกตเด็กแต่ละคนอย่างมีระบบจพได้รู้ว่าเด็กมีทักษะการเล่นแบบใดบ้างเพื่อทำแผน IEP
การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง
-วางแผนกิจกรรมการเล่นไว้หลายๆอย่าง
-คำนึงถึงเด็กทุกคนว่าเด็กสามารถเล่นได้หรือไม่และไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป
-ให้เด็กแบ่งกลุ่มเล็กๆ2-4 คน
ครูปฎิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น
เฝ้ามองอย่างสนใจ ยิ้มพยักหน้าถ้าเด็กหันมาหาครู  ไม่ชมเด็กหรือสนใจเด็กมากจนเกินไป
ถ้าเด็กเล่นเสร็จไว ทำงานเสร็จไว เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
การให้แรงเสริมทางสังคมในบริบทที่เด็กเล่น
ครูพูดชักชวนให้เด็กร่วมเล่นกับเพื่อน
ทำโดยการพูดนำของครู
วิธีการนำของครู คือ พาเด็กไปเล่นกับเพื่อน โดยนำอุปกรณ์ไปเล่นกับเพื่อนด้วย
ช่วยเด็กทุกคนให้รู้กฎเกณฑ์
-เด็กพิเศษต้องเรียนรู้สิทธิต่างๆเหมือนเพื่อนในห้อง
-ครูต้องไม่ใช้ความบกพร่องของเด็กพิเศษมาเป็นเครื่องต่อรอง

กิจกรรมหลังการเรียนการสอน


อาจารย์ให้จับคู่และให้เลือกสีคนละ1 สีที่ตัวเองชอบ

อาจารย์จะเปิดเพลงให้วาดภาพตามเสียงเพลงเมื่อเพลงจบก็หยุดทันที



ให้คนนึงวาดอีกคนเป็นคนจุดตามจุดที่ตัดกันเป็นวงกลม



จากภาพที่เราวาดและจุดเรามองเห็นเป็นรูปอะไรให้ระบายสีภาพนั้นตกแต่งให้สวยงาม







สิ่งที่นำไปพัฒนา
          ครูต้องรู้จักสังเกตเด็กและบันทึกพฤติกรรมเด็กอย่างเป็นระบบเพื่อจะได้รู้ว่าเด็กมีทักษะการเล่นแบบใดจะได้ทำแผน IEP กิจกรรมการเล่นควรมรหลายกิจกรรมและต้องคนึงถึงเด็กทุกคนที่ไม่ยากและง่ายเกินไปเมื่อเด็กทำกิจกรรมครูไม่ชมหรือสนใจเด็กมากจนเกินไป เมื่อเด็กหันมาหาครูครูควรยิ้มและพยักหน้าให้ถ้าเด็กพิเศษไม่กล้าไปเล่นกับเพื่อนครูควรพาเด็กไปเล่นกับเพื่อนๆโดยมีอุปกรณ์ไปเล่นร่วมกับเพื่อนด้วย ด้วยครูคอยสังเกต
การประเมิน
ประเมินตนเอง  อาจารย์มีเกมให้เล่นตอนต้นชั่วโมงสนุกมากก่อนที่จะเข้าบทเรียน ตั้งใจเรียน ตอนท้ายชั่วโมงอาจารย์ก็มีกิจกรรมให้ทำอีก สนุกมากคะ และสอนร้องเพลงด้วย
ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆสนุกสนาน หัวเราะ กับเกมที่อาจารย์ให้เล่น เพื่อนๆตั้งใจเรียน และตั้งใจตอบคำถามและทำกิจกรรมท้ายคาบเพื่อนๆและตั้งใจร้องเพลง
ประเมินอาจารย์  อาจารย์ตั้งใจสอนยกตัวอย่างเกี่ยวกับเด็กพิเศษได้อย่างเข้าใจ อาจารย์เตรียมการเรียนการสอนทุกครั้ง อาจารย์มีกิจกรรมสนุกๆให้นักศึกษาเล่นเสมอ กิจกรรมที่ทไท้ายคาบก็สามารถใช้กับเด็กพิเศษได้ และสอนนักศึกษาร้องเพลงทุกครั้ง



วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 5



บันทึกอนุทิน
วันพุธ ที่ 11  กุมภาพันธ์ 2558
เวลาเรียน 09.00-12.20 น.
เวลาเข้าเรียน 09.00 เวลาเลิกเรียน 12.20 น.



กิจกรรมที่ทำวันนี้
     อาจารย์แจกถุงมือ ให้นักศึกษาสวมถุงมือข้างที่ไม่ถนัด จากนั้นก็ให้วาดภาพมือที่ใส่ถุงมือนั้นให้เหมือนที่สุด






               การทำกิจกรรมครั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการสังเกตพฤติกรรม  ถ้าเป็นเด็ก 1 คน เราเห็นเด็กทุกวัน แต่ไม่เคยบันทึกพฤติกรรมเด็ก คิดว่าตนจำได้บันทึกเวลาไหนก็ได้ แต่พอจะบันทึกจริงจำไม่ได้ ก็เหมือนมือของเราเราเห็นทุกวัน พอใส่ถุงมือแล้วให้วาดก็ไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ ในขณะที่วาดจึงพยายาม เทียบกับมือขวา  บางคนก็เอามือที่ใส่ถุงมือไปร่างกับกระดาษ ดูของเพื่อนบ้าง ก็เหมือนกับการสังเกตพฤติกรรมเด็กพิเศษถ้าครูไม่บันทึกทันทีเมื่อเห็นพฤติกรรมที่เด็กแสดงออกมา ครูมาบันทึกทีหลังก็จะใส่ความรู้สึกส่วนตัว  หรือ เทียบกับเด็กคนอื่น ถ้าไม่แน่ใจก็จะถามบุคคลอื่น ซึ่งจำทำให้มีความคลาดเคลื่อนได้



เนื้อหาที่เรียน  วันนี้เรียนเรื่อง การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ทักษะของครู
การฝึกเพิ่มเติม เช่น การอบรม สัมมนา
การเข้าใจภาวะปกติ
-เด็กคล้ายคลึงมากกว่าแตกต่าง
-ครูต้องรู้จัก ชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุล ของเด็ก
-มองเด็กเป็นเด็ก
การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า คือ การเข้าใจพัฒนาการเด็กจะช่วยให้ครูมองเก็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคน
ความพร้อมของเด็ก  
-วุฒิภาวะ 
-แรงจูงใจ
-โอกาส
การสอนโดยบังเอิญ ถ้าเด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสสอนมากขึ้นเท่านั้น
การสอนโดยบังเอิญกับกิจกรรมก็สามารถทอดแทรกได้และ ครูต้องมีความสนใจเด็ก มีความรู้สึกดีต่อเด็ก มีอุปกรณ์และกิจกรรมล่อใจเด็ก
อุปกรณ์ สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างควรเป็นสื่อที่ไม่แยกเพศเด็กและเป็นสิ่งที่เล่นไม่ตายตัว เช่น บล็อก  เลโก้
ตารางประจำวัน เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่ประจำกิจกรรมต้องเรียงเป็นลำดับเป็นขั้นตอนและควรคำนึงถึงความเหมาะสมของเวลา 
ทัศนคติของครู
ความยืดหยุ่น  เช่น การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ยอมรับความสามารถของเด็ก ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคนตั้งไว้ไม่สูงจนเกินไป
การใช้สหวิทยาการ
-ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆ ฟังหูไว้หูแล้วไปปรับใช้กับเด็ก
-สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน เช่น  การร้องเพลง
การเปลี่ยนพฤติกรรรมและการเรียนรู้
เด็กทุกคนสอนได้ เพราะ ทุกคนมีศักยภาพในตัว
เทคนิคการให้แรงเสริม 
วิธีการแสดงออกถึงแรงเสริมจากผู้ใหญ่
-พูดชมเด็ก การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก พยักหน้า ยิ้ม ฟัง สัมผัสทางกาย ให้ความช่วยเหลือ ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย  
-ครูให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์
การแนะนำหรือบอกบท
-การย่อยงาน ลำดับความยากง่ายของงาน  
ขั้นตอนการให้แรงเสริม
-สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
-วิเคราะห์งาน กำหนดจุดประสงค์ย่อยงานในแต่ละขั้น
-สอนจากง่ายไปยาก
-ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้
-ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
-ทีละขั้นไม่เร่งรัด ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น
-ไม่ดุหรือตี
การกำหนดเวลา 
จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม
ความต่อเนื่อง
-พฤติกรรมทุกอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆหลายๆอย่างรวมกัน เช่น การเข้าห้องน้ำ การหยิบและเก็บของ
-สอนก้าวไปข้างหน้า หรือ ย้อยมาจากข้างหลัง
เช่น เด็กตักซุป  สอนที่ละขั้นตอน คือการสอนไปข้างหน้า
สอนการจับช้อน--การตัก--การระวังไม่ให้น้ำในช้อนหกก่อนจะเข้าปาก--การเอาช้อนและซุปเข้าปาก--การเอาซุปออกจากช้อนเข้าสู่ปาก
เด็กพิเศษชอบการสอนย้อนกลับจากข้างหลังไปข้างหน้า เช่น การดึงเชือกร้องเท้าก่อนแล้วย้อนไปทีละขั้นตอน 
การลดหรือหยุดแรงเสริม
-ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
-เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกไปจากเด็ก
-เอาเด็กออกจากการเล่น 
ครูต้องคงเส้นคงวา


สิ่งที่นำไปพัฒนา  
     ครูต้องเข้าใจเด็กและรู้จักสังเกตเด็ก ครูควรพกสมุดหรือกระดาษเล็กๆเพื่อเตรียมพร้อมกับจดบันทึกพฤติกรรมเด็กทุกอย่างบันทึกสม่ำเสมอ บันทึกประจำ เวลาที่เด็กมาขอความช่วยเหลือ มาปรึกษา อย่าใช้เวลากับเด็กคนนั้นมากจนเกินไป ครูควรดูแลเด็กคนอื่นด้วย



  การประเมิน     
 ประเมินตนเอง
  แต่งตัวเรียบร้อย มาสายเล็กน้อย ตั้งใจทำกิจกรรมที่อาจารย์สั่ง ตั้งใจเรียน แอบเสียงดังบ้างเล็กน้อย เข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอน 
ประเมินเพื่อน  
เพื่อนแต่งตัวเรียบร้อย บางคนก็มาสาย คุยกันเสียงดังเป็นระยะ อาจารย์ต้องคอยเตือนเสมอ บางส่วนก็ตั้งใจเรียน บางครั้งเพื่อนก็ไม่ค่อยสนใจเรียนอาจเป็นเพราะวันนี้มีเนื้อหามากจึงทำให้เพื่อนเบื่อ แต่เพื่อนทุกคนก็เข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนและตอบคำถามที่อาจารย์ถามได้
ประเมินอาจารย์  อาจารย์แต่งตัวเรียบร้อย ให้ทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่สอน นำเข้าสู่บทเรียนที่น่าสนใจ คอยยกตัวอย่างเกี่ยวกับเด็กพิเศษให้ฟังเสมอ และคอยถามนักศึกษาว่าเข้าใจเนื้อหาหรือไม่ โดยให้นักศึกษาช่วยกันตอบคำถาม อาจารย์มีความอดทนมากเพราะเวลาที่นักศึกษาเสียงดังอาจารย์จะคอยเตือนเสมอ อาจารย์ตั้งใจสอนและอธิบายเนื้อหาได้อย่างเข้าใจ




วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558